P.I.E. Premium Modern Truck

  การคาดเข็มขัดนิรภัย    อุบัติเหตุบนท้องถนนนั้นก็เป็นสิ่งที่เราไม่อยากให้เกิดและไม่รู้ว่าจะเกิดขึ้นเมื่อไหร่ ดังนั้นเราควรจะ คาดเข็มขัดนิรภัย ในการออกเดินทางด้วยรถยนต์ทุกครั้ง  เนื่องมาจากว่าการเข็มขัดนิรภัยนั้นมีหน้าที่ที่ความสำคัญต่อชีวิตการเดินทางของเราเป็นอย่างมากเลยทีเดียว เมื่อเวลาที่เกิดสถานการณ์ฉุกเฉินที่ไม่คาดคิดขึ้นอย่างการเกิดอุบัติเหตุบนท้องถนนไม่ว่าจะเล็กน้อยไปจนถึงร้ายแรง โดยเข็มขัดนิรภัยนั้นจะมาทำหน้าที่ในการช่วยป้องกันและลดการบาดเจ็บ รวมถึงช่วยให้ชีวิตของเราปลอดภัย โดยมีเปอร์เซ็นที่สามารถช่วยชีวิต ได้มากสูงถึง 60% และยิ่งไปกว่ายังต้อง คาดอย่างถูกวิธีอีกด้วย เพราะถ้าหากว่าคาดด้วยวิธีที่ไม่ถูดต้อง ก็อาจจะส่งผลให้เกิดผลเสียที่แย่กว่าได้    เพราะเราไม่ได้รับการป้องกันดีเท่าที่ควร  ฉะนั้นในวันนี้เองทาง  P.I.E Premium Modern Truck   ได้รวมวิธีคาดเข็มขัดนิรภัยที่ถูกต้องเพื่อให้ทำงานอย่างมีประสิทธิภาพในการ ป้องกันอันตรายได้มากที่สุด     วิธีคาดเข็มขัดนิรภัยให้ถูกต้อง ·        สำหรับ เด็กที่มีอายุต่ำกว่า 12 ปี   สำหรับเด็กจะต้องนั่งประจำอยู่ในคาร์ซีทหรือนั่งที่เบาะหลัง และควรมี

  การขับขี่อย่างปลอดภัยช่วยลดอุบัติเหตุ      ในวันนี้ทาง  P.I.E Premium Modern Truck   ได้เอาเคล็ดลับการขับรถง่าย ๆ ที่นำเอาไปปฏิบัติก็จะสามรถช่วยให้เราสามารถขับขี่ได้อย่างปลอดภัยและลดอุบัติเหตุได้มาฝากกับทุกคนกัน ไปอ่านกันเลย     ·        เปิดใช้ไฟตัดหมอกเมื่ออยู่ในสถานการณ์ที่จำเป็นต่าง ๆ อย่าง   ฝนตกหนัก มีหมอกหนาจัด หรือมีกลุ่มควันหนาบดบังทัศนวิสัยการขับขี่มองเห็นเส้นทางได้ยากมากขึ้น หรือไม่สามารถมองเห็นทางเส้นทางข้างหน้าในระยะ  50  เมตรได้อย่างชัดเจน ซึ่งมีความจำเป็นที่จะต้องเปิดใช้งาน เพื่อช่วยให้เพิ่มวิสัยทัศน์ในการมองเห็นได้ดีขึ้น ·        ห้ามดัดแปลงไฟหน้าและไฟท้ายรถให้ต่างไปจากของเดิม หรือปรับไฟให้มีความสว่างจ้าจนเกินไป เพราะแสงเหล่านี้อาจจะสะท้อนไปเข้ากระจก หรือส่องเข้าตาของผู้ขับขี่รถคนอื่นที่ขับขี่สวนทางไปมาได้ ซึ่งจะทำให้สายตาพร่ามัว จนอาจเป็นเหตุให้เกิดอุบัติเหตุร้ายแรงบนท้องถนนได้ ·        ห้ามขับขี่รถในบริเวณไหล่ทาง ซึ่งเป็นช่องทางที่มีไว้สำหรับรถฉุกเฉิน เพื่อปฏิบัติงานในสถานการณ์เหตุฉุกเฉินต่าง ๆ อย่างเช่น รถพยาบาล รถตำรวจ หรือมีไว้สำหรับรถที่จอดเสียชั่วคราวเท่านั้น ·

     เมื่อเราตกอยู่ในสถานการณ์ รถดับกลางน้ำท่วม สิ่งแรกที่เราควรจะต้องทำก็คือการตั้งสติ อย่าตื่นตกใจไป และ อย่าทำการสตาร์ทรถในน้ำอย่างเด็ดขาด เพื่อเป็นการป้องกันการที่น้ำจะสามารถเข้าไปในเครื่องยนต์ทำให้รถเสียหายเพิ่มขึ้น หรือเกิดไฟฟ้าลัดวงจรขึ้นมาได้  ดังนั้นเมื่อรถเกิดดับขึ้นมาให้ตั้งสติก่อนแล้วทำการบิดกุญแจดับเครื่อง  แล้ว ก็ให้เปิดสัญญาณไฟฉุกเฉินเพื่อเตือนแก่รถคันอื่น ให้รับรู้ว่ารถของเรากำลังเกิดปัญหาดับอยู่กลางน้ำท่วม ให้ทำการขับขี่หลีกเลี่ยงไปอีกทาง ซึ่งวิธีนี้ก็จะทำให้ไม่เกิดอุบัติเหตุซ้ำซ้อน นั่นเอง  ต่ อมาหลังจากจัดการเปิดไฟฉุกเฉินแล้วก็ให้เราออกมาจากตัวรถ เพื่อทำการขอความช่วยเหลือในการเข็นรถเคลื่อนย้ายหนีน้ำไปที่สูงหรือที่แห้ง หรือว่าติดต่อบริษัทประกัน ศูนย์บริการ รถยก-รถลาก ที่ช่วยนำรถออกจากบริเวณน้ำท่วมได้ หรือเข็นรถหนีน้ำไปที่แห้ง  จากนั้น เมื่อเคลื่อนรถย้ายออกจากบริเวณน้ำท่วมหรือขึ้นพื้นที่สูงและแห้งได้แล้ว ให้ทำการตรวจสอบเบื้องต้นก่อน เปิดฝากระโปรงหน้ารถถอดขั้วแบตเตอรี่ออกเพื่อตัดระบบจ่ายไฟทันที เพื่อเป็นการป้องกันไม่ให้ไฟเข้าไปเลี้ยงในระบบส่วนอื่น ๆ ของรถยนต์ รวมทั้งปล

      ฮีโน่แข่งขันสุดยอดนักขับรถบรรทุก   Hino Smart Driver Contest     ครั้งที่  4   ในวันที่ 1 ตุลาคม 2565 ที่ผ่านมา ทางบริษัท ฮีโน่มอเตอร์สเซลส์ (ประเทศไทย) จำกัด เนื่องจากโอกาสดีสำหรับการฉลองครบรอบ  60  ปีที่มีการดำเนินธุรกิจในประเทศไทยจึงได้จัดกิจกรรมเพื่อเป็นการเฟ้นหาสุดยอดนักขับรถบรรทุก  ทำให้ รูปแบบการแข่งขันในปีนี้ก็ได้มีความพิเศษมากกว่าในทุก ๆ ปี เป็นการแข่งขันชิงถ้วยพระราชทานสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี และมูลค่ารวมรางวัลกว่า  700,000  บาท ได้มีจัดการแข่งขัน ณ ศูนย์ฝึกอบรมการขับขี่ปลอดภัย  TPRO Traning Center TTK  จังหวัดฉะเชิงเทรา   โดยพิธีเปิดการแข่งขันก็ได้รับเกียรติจาก สิริรัตน์ วีรวิศาล รองอธิบดี กรมการขนส่งทางบก และอภิชาติ ไพรรุ่งเรือง ประธานสหพันธ์ขนส่งทางบกแห่งประเทศไทย ร่วมกันเป็นประธานในพิธีเปิดการแข่งขัน พร้อมด้วยพันธมิตรธุรกิจอื่น ๆ ที่ให้การสนับสนุน อย่างมากมาย     รูปแบบการแข่งขันที่ได้มีการปรับปรุงในปีนี้ โดยรถบรรทุกที่ใช้ในการแข่งขันเองต้องการให้มีความใกล้เคียงกับสภาพสังคมของประเทศไทยมากที่สุด และสำหรับรูปแบบการจัดการแข

    ในวันนี้ทาง  P.I.E Premium Modern Truck   ได้นำข้อมูลข่าวสารที่ควรรู้มาแจ้งแก่ผู้อ่านทุกท่านให้ได้รู้เกี่ยวกับเรื่องของข้อกำหนดที่ทางขนส่งทางบกตามกระทรวงคมนาคมได้มีกฎกระทรวงได้กำหนดเงื่อนไขการบำรุงรักษารถไว้ในใบอนุญาตประกอบการขนส่ง พ.ศ. 2563 เกี่ยวกับการให้ผู้ประกอบการขนส่ง รถโดยสาร  -  รถบรรทุก ให้ตรวจสอบและบำรุงรักษารถเมื่อมีระยะทาง 40 , 000 กิโลเมตร หรือระยะเวลาตามที่ได้กำหนดก็คือระยะเวลาทุก  6 เดือน ทั้งนี้เพื่อให้เกิดความพร้อมของรถ ความปลอดภัยสำหรับการใช้งานรถและยังลดโอกาสในการเกิดอุบัติเหตุอันมีสาเหตุมาจากสภาพเครื่องอุปกรณ์และส่วนควบของรถขาดความสมบูรณ์ และความปลอดภัยในการให้บริการประชาชน ลดการสูญเสียทั้งชีวิตและทรัพย์สินเนื่องจากอุบัติเหตุนั่นเอง     ในเรื่องของการกำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ เงื่อนไข และระยะเวลาการบำรุงรักษารถนั้น ทางกรมการขนส่งทางบกโดยความเห็นชอบของ รมว.คมนาคม ได้มีประกาศตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบก พ.ศ. 2565 ไปตั้งแต่เมื่อวันที่ 4 มีนาคม 2565 ที่ผ่านมา เนื้อหาของการกำหนดให้ผู้ได้รับใบอนุญาตประกอบการขนส่งประเภทการขนส่งประจำทาง และการขนส่งไม่ประจำทาง การขนส่งโดย