การดูแลรถในหน้าฝน
การดูแลรถในหน้าฝน
เวลาที่ผ่านไปอย่างรวดเร็วก็ผ่านหน้าร้อนมาและก้าวเข้าสู่เดือนหกหน้าฝนตกจนได้ เมื่อตอนหน้าร้อนที่ผ่านมารถยนต์และรถบรรทุกก็คงจะมีการใช้งานมาอย่างหนักหน่วงจนทำให้มีบางอย่างเสื่อมสภาพไปบ้าง ฉะนั้น เราก็ต้องมีการดูแลรถในหน้าฝนเพื่อเตรียมตัวให้รถของเรามีความพร้อมที่จะรับมือกับการเผชิญหน้าฝน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องฝนลงมาทำเอารถเปรอะเปื้อนจนสีหมองลงดูเก่าสร้างความหงุดหงิด เรื่องงการเดินทางที่ต้องฝ่าฟันกับสายฝนรวมไปถึงพายุอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ หนำซ้ำถนนก็ลื่น ทั้งทัศนวิสัยในการมองเห็นก็ลำบาก ความเสี่ยงต่อโอกาสการเกิดอุบัติเหตุก็ยิ่งจะสูง ในบางพื้นที่มีน้ำขัง ท่วม ก็จำเป็นที่ต้องขับรถลุยน้ำอีก
สำหรับเรื่องการดูแลรถยนต์หรือรถบรรทุกของเราที่ต้องใส่ใจก็คือ อย่างแรกต้องล้างทำความสะอาดอยู่เสมอไม่ว่าจะมีการลุยน้ำหรือฝ่าฟันพายุฝนมาหนักขนาดไหน เพราะในน้ำฝนมีทั้งฝุ่นและสิ่งสกปรก ไม่พอยังมีมีฤทธิ์เป็นกรดอ่อน ๆ ที่สามารถกัดกร่อนสีรถได้ ซึ่งถ้าหากทิ้งไว้จะคราบจึงต้องฉีดน้ำเพื่อล้างทำความสะอาดออกไปก่อนตามด้วยการเช็ดรถให้แห้งด้วยผ้าเช็ดรถ แต่อย่าแก้ขัดด้วยการเช็ดรถเลยทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้ล้าง เพราะอย่างที่บอกไปว่าในน้ำฝนมีทั้งฝุ่นและสิ่งสกปรก นั่นรวมถึงเศษดินและเศษหินเล็ก ๆ ซึ่งถ้าหากเราเช็ดไปเลยอาจจะขูดรถจนทำให้รอยเล็ก ๆ หรือรอยขนแมวได้ และควรจะหลีกเลี่ยงการจอดใต้ต้นไม้ด้วย เพราะเมื่อฝนตกก็มีมักจะลมแรง ทำให้มีใบไม้ ยางไม้ ผลเล็ก ๆ ร่วง ปลิวตามลมมาติดที่ผิวรถทำให้เป็นคราบและรอยด่าง กิ่งไม้เล็ก ๆ หรือใหญ่ก็อาจหล่นมาใส่รถ หรือที่แย่กว่านั้นก็คือต้นไม้โคนล้มลงมาทับรถจนเสียหายหนัก ถ้าหากเลี่ยงได้เราก็ควรจะเลี่ยงไว้ก่อน
และนอกจากนี้ก็ต้องหมั่นตรวจเช็กสภาพและระบบในส่วนต่าง ๆ ของรถอย่างสม่ำเสมอ ไม่ว่าจะเป็นที่ปัดน้ำฝน,ซีลยางขอบประตู, สายไฟและซีลยางที่อยู่ภายในเครื่องยนต์, แบตเตอรี่, ไดชาร์จ, ระบบเบรก, ล้อรถ รวมถึงระบบไฟรอบคันรถ เป็นต้น
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น