รู้แล้วระวังไว้ ! ไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์ก็มีโทษเท่ากับเมาแล้วขับ
ในวันนี้เราจะมาไขข้อสงสัยที่เกิดขึ้นอย่างมากมาย หลังจากที่มีข่าวในสื่อสังคมออนไลน์เกี่ยวกับไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์ อาจจะทำให้หลายคนมีข้อถกเถียงกันอย่างกว้างขวางว่าสำหรับในกรณีที่ไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์จะมีความผิดหรือไม่ เรามาดูไขคำตอบกัน ในปัจจุบันนี้ สำหรับการฝ่าฝืนไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์ ก็จะถือว่ามีความผิดข้อหาฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2542 มาตรา 142 วรรคสอง ในกรณีที่เจ้าพนักงานเห็นว่าผู้ขับขี่ฝ่าฝืนมาตรา 43 (1) หรือ (2) ให้เจ้าพนักงานจราจร พนักงานสอบสวน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่สั่งให้มีการทดสอบผู้ขับขี่ดังกล่าวว่าหย่อนความสามารถในอันที่จะขับ หรือเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่นหรือไม่ โดยบทกำหนดโทษเป็นไปตาม มาตรา 154 (3) ผู้ใดฝ่าฝืนคำสั่งเจ้าพนักงานจราจร พนักงานสอบสวน หรือพนักงานเจ้าหน้าที่ตามมาตรา 142 วรรคสอง ต้องระวางปรับครั้งละไม่เกิน 1,000 บาท
ซึ่งถ้าหากตามพ.ร.บ. จราจรทางบก พ.ศ.2542 แล้ว ถ้าหากว่าผู้ขับขี่ที่ฝ่าฝืนไม่ยอมเป่าแอลกอฮอล์จะถูกสันนิษฐานไว้ก่อนเลยว่าผู้นั้นขับขี่รถในขณะเมาสุรา แม้ไม่ยอมทดสอบก็ตาม โดยตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2542 มาตรา 142 วรรคสอง พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2542 มาตรา 142 วรรคสอง ได้มีการบัญญัติไว้ว่า ในกรณีที่มีพฤติการณ์อันควรเชื่อว่าผู้ขับขี่ขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น หากผู้น้ันยังไม่ยอมให้ทดสอบตามวรรคสามโดยไม่มีเหตุอันสมควร ให้สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้น้ันฝ่าฝืน มาตรา 43 (2) (สันนิษฐานไว้ก่อนว่าผู้นั้นขับขี่รถในขณะเมาสุรา แม้ไม่ยอมทดสอบ)
และสำหรับในกรณีนี้ ก็จะหมายความว่าทางผู้ขับขี่ก็จะมีความผิดในข้อหาขับขี่รถในขณะเมาสุรา ตาม พ.ร.บ.จราจรทางบก พ.ศ.2542 มาตรา 43 (2) ซึ่งห้ามมิให้ผู้ขับขี่ขับรถในขณะเมาสุราหรือของเมาอย่างอื่น ผู้ใดฝ่าฝืนต้องระวางโทษจำคุกไม่เกินหนึ่งปีหรือปรับตั้งแต่ห้าพันบาทถึงสองหมื่นบาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และให้ศาลสั่งพักใช้ใบอนุญาตขับขี่ของผู้นั้นมีกำหนดไม่น้อยกว่าหกเดือน หรือเพิกถอนใบอนุญาตขับขี่นั่นเอง
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น