เช็กรถด้วยหลัก BE-WAGON

 


สำหรับตัว 𝗕  ย่อมาจากคำว่า 𝗕𝗿𝗮𝗸𝗲 ซึ่งจะมีความหมายว่า ให้ทำการตรวจเช็กในส่วนของ ระบบเบรก ไม่ว่าจะเป็น ระดับน้ำมันเบรก น้ำมันคลัทช์ ความเรียบร้อยของท่อน้ำมันเบรก  เช็กเบรกมือ รวมไปถึงเช็กผ้าเบรก จานเบรก ด้วย

 

สำหรับตัว  𝗘 ย่อมาจากคำว่า 𝗘𝗹𝗲𝗰𝘁𝗿𝗶𝗰𝗶𝘁𝘆 ซึ่งจะมีความหมายว่า ให้ทำการตรวจเช็กในส่วน ระบบไฟฟ้าต่าง ๆ ของรถยนต์ทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น ระดับน้ำกลั่นในแบตเตอรี่ เช็กขั้วแบตเตอรี่ สายรัดและแท่นรองแบตเตอรี่  เช็กไฟสูง-ต่ำ ไฟเลี้ยว ไฟเบรก และเช็กแตรรถ เช็กที่ปัดน้ำฝน เป็นต้น

 

สำหรับตัว  𝗪 ย่อมาจากคำว่า 𝗪𝗮𝘁𝗲𝗿 ซึ่งจะมีความหมายว่า ให้ทำการตรวจเช็กในส่วน ระบบน้ำ ไม่ว่าจะเป็น ระดับน้ำหล่อเย็นในหม้อน้ำ  ถังพักน้ำสำรอง และน้ำในถังฉีดล้างกระจก

 

สำหรับตัว  𝗔 ย่อมาจากคำว่า 𝗔𝗶𝗿 ซึ่งจะมีความหมายว่า ให้ทำการตรวจเช็กในส่วน ระบบอากาศและลมทั้งหมดภายในรถ ไม่ว่าจะเป็น การทำงานของเครื่องปรับอากาศ เช็กลมยาง ดอกยาง ความเรียบร้อยของล้อ  และการตรวจสอบควันดำ 

 

สำหรับตัว  𝗚 ย่อมาจากคำว่า 𝗚𝗮𝘀𝗼𝗹𝗶𝗻𝗲 ซึ่งจะมีความหมายว่า ให้ทำการตรวจเช็กในส่วน น้ำมันเชื้อเพลิง พร้อมกับในส่วนไส้กรองน้ำมันเชื้อเพลิงด้วย

 

สำหรับตัว  𝗢 ย่อมาจากคำว่า 𝗢𝗶𝗹 ซึ่งจะมีความหมายว่า ให้ทำการตรวจเช็กในส่วน ระดับของน้ำมันต่าง ๆ ภายในเครื่องยนต์ ไม่ว่าจะเป็นน้ำมันหล่อลื่น น้ำมันเครื่อง น้ำมันเกียร์ น้ำมันพวงมาลัยเพาเวอร์ และรวมไปถึงน้ำมันเฟืองท้ายด้วย

 

สำหรับตัว  𝗡 ย่อมาจากคำว่า 𝗡𝗼𝗶𝘀𝗲 ซึ่งจะมีความหมายว่า ให้ทำการตรวจเช็กในส่วน ระบบเสียงเครื่องยนต์ เสียงการทำงานของรถ เสียงท่อไอเสียและส่วนต่างๆ ว่ามีความดังผิดปกติหรือไม่ เพราะเสียงเป็นสัญญาณในการบ่งบอกถึงการสึกหรอของเครื่องยนต์ได้



อ่านเพิ่มเติมได้ที่ เช็กรถด้วยหลัก BE-WAGON
ติดตามข่าวสาร และ ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ รถบรรทุก
ได้ที่ : P.I.E. Premium Modern Truck ขายรถบรรทุก
ติดต่อสอบถามเพิ่มเติม : P.I.E Premium Modern Truck

ความคิดเห็น

โพสต์ยอดนิยมจากบล็อกนี้

ร่วมกิจกรรม “ตรวจรถฟรี ขับขี่ปลอดภัย” ถึง 15 เมษา นี้

การปรับกระจกมองข้างและกระจกมองหลัง

ถ้าขับรถไม่เปิดไฟเลี้ยงระวังผิดกฎหมายนะ !