ตามกฎหมายของการติดตั้ง GPS รถบรรทุก
สำหรับการติดตั้ง GPS รถบรรทุก ซึ่งจะสามารถมีส่วนช่วยในการเป็นเครื่องมือที่ช่วยให้ผู้ประกอบการขนส่ง สามารถมีส่วนช่วยติดตามพฤติกรรมผู้ขับรถ และเพื่อเป็นการกำหนดมาตรการในการป้องกันและลดอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นกับรถโดยสารสาธารณะและรถบรรทุก อีกทั้งยังสามารถใช้เป็นเครื่องมือบริหารการขนส่งทางบกให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด โดยตามข้อกำหนดที่มาจากทางด้านของกรมการขนส่งทางบกพ.ร.บ.ขนส่งทางบก พ.ศ.2522 ได้มีการกำหนดให้รถโดยสารสาธารณะทุกประเภทและรถตู้ (ยกเว้น รถสองแถว, รถหมวด 4 และรถหมวด 1 ภูมิภาค) รถลากจูง และรถบรรทุกขนาดใหญ่ (10 ล้อขึ้นไป) จะต้องมีการติดตั้ง GPS พร้อมกับจะต้องเชื่อมโยงข้อมูลเข้ากับศูนย์บริหารในการจัดการเดินรถของทางกรมการขนส่งทางบก โดยจะมีการจัดเก็บข้อมูลต่าง ๆ อย่างเช่น ข้อมูลการใช้ความเร็ว, ชั่วโมงการขับขี่ และตำแหน่งพิกัดของรถ
ซึ่งถ้าหากฝ่าฝืนจะมีโทษปรับตามกฎหมาย พ.ร.บ.ขนส่งทางบก พ.ศ.2522 โดยจะแบ่งออกเป็น 2 กรณีคือ คนขับรถบรรทุก และเจ้าของกิจการรถบรรทุก ดังนี้
· สำหรับกรณีที่คนขับรถบรรทุกไม่มีส่งข้อมูล GPS Tracking ของรถบรรทุก ให้กับกรมการขนส่งทางบก
จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ขนส่งทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 102 และมาตรา 127 เนื่องจากไม่ปฏิบัติตามข้อกำหนดที่ว่าด้วยความปลอดภัยในการขนส่งมีโทษปรับ 1,000-5,000 บาท หรือหากมีการใช้งานเครื่องตัดสัญญาณหรือรบกวนสัญญาณ GPS ติดรถบรรทุกทำให้ไม่สามารถติดตามตำแหน่งรถบรรทุกได้จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.วิทยุคมนาคม พ.ศ.2558 มาตรา 6 และมาตรา 23 มีโทษปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือจำคุกไม่เกิน 5 ปีหรือทั้งจำทั้งปรับ
· สำหรับกรณีที่เจ้าของกิจการไม่มีการติดตั้ง GPS Tracking รถบรรทุก
ถ้าหากในกรณีที่เจ้าของกิจการรถบรรทุก ไม่มีการติดตั้ง GPS Tracking รถบรรทุก ก็จะมีความผิดตาม พ.ร.บ.ขนส่งทางบก พ.ศ.2522 มาตรา 35 และมาตรา 131 เนื่องจากไม่ติดตั้งเครื่อง GPS ติดตามตำแหน่งรถบรรทุกสร้างเป็นการความไม่ปลอดภัย มีโทษปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือถูกพิจารณาให้พักการใช้งานหรือยกเลิกใบขับขี่รถบรรทุก
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น